ภาพ “จูบ” แรกในประวัติศาสตร์ศิลปะ

ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะแต่ละชิ้น เหล่าศิลปินต่างได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ลงบนผืนผ้าใบจนเกิดเป็นภาพงานศิลปะอันเป็นที่กล่าวขานมากมายจนถึงปัจจุบัน ศิลปินแต่ละคนต่างมีวิธีการสร้างแรงบันดาลใจที่ต่างกัน หากว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ทรงพลัง คือ ‘ความรัก’  ดั่งเช่นคำกล่าวของศิลปินชื่อดัง มาร์ก ชากาล (Marc Chagall) ที่ว่า

“In the arts, as in life, everything is possible provided it is based on love.
“ในศิลปะ และในชีวิต ทุกสิ่งเป็นไปได้หากตั้งอยู่บนความรัก”

จะเห็นได้ว่ามีผลงานอยู่หลายชิ้นที่แสดงให้เห็นถึงความรัก ซึ่งสังเกตได้จากการใช้สีหรือสัญลักษณ์ต่างๆ อย่างเช่น “การจูบ” ที่เป็นการแสดงความรักที่ชัดเจน จนเกิดเป็นภาพผลงานชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภาพ The Kiss โดยกุสตาฟ คลิมต์ (Gustav Klimt) หรือ งานประติมากรรม The Kiss โดยโอกุสต์ รอแด็ง (Auguste Rodin) เนื่องในโอกาสวันแห่งความรัก JWD Art Space ขอร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันวาเลนไทน์ด้วยการพาทุกคนชมภาพ “จูบ” แรกในประวัติศาสตร์ศิลปะ

ภาพที่เหล่านักประวัติศาสตร์ศิลปะเชื่อว่าเป็นภาพ “จูบ” แรกของโลกนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์สโครเวนยี (Scrovegni Chapel) เมือง ปาโดวา วาดขึ้นในปี ค.ศ. 1305 โดยจิตรกรชาวอิตาลี จากเมืองฟลอเรนซ์ จอตโต ดี บอนโดเน (Giotto di Bondone) ผู้รังสรรค์ผลงานด้วยเทคนิค Fresco หรือการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังด้วยปูนปลาสเตอร์เปียก

จิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์แห่งนี้เล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตของพระแม่มารีย์และพระเยซู หากว่าการแสดงความรักด้วยการจูบนั้นปรากฏอยู่ในภาพ Meeting at the Golden Gate ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ โยอากิม (Joachim) และอันนา (Anna) ผู้เป็นบิดาและมารดาของพระนางมารีย์ได้รับการแจ้งข่าวจากทูตสวรรค์เรื่องการตั้งครรภ์ของอันนา หลังจากทั้งสองพยายามมีบุตรด้วยกันมาเป็นเวลาหลายปี โดยจอตโต เลือกบรรยายผ่านภาพของโยอากิมและอันนา ซึ่งกำลังโอบกอดและโน้มตัวจูบกัน หลังจากได้รับข่าวอันแสนวิเศษนี้ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีวงแหวนอยู่บนศีรษะของทั้งสอง อันสื่อถึงการประสูติของพระนางพรหมจารีมารีย์

นอกจากเป็นภาพจูบแรกของโลกแล้ว อีกหนึ่งความพิเศษของจิตรกรรมฝาผนังที่โบสถ์แห่งนี้คือการเป็นผลงานของจอตโตที่มีสภาพสมบูรณ์มากที่สุด ตัวจิตรกรรมได้มีการบูรณะอยู่หลายครั้ง หากว่าตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 จนถึงปัจจุบัน ตัวโบสถ์ สภาพอากาศ ความเสี่ยงทางมลพิษ และตัวจิตรกรรมได้มีการตรวจสอบและดูแลอย่างใกล้ชิด โดยจำกัดให้เข้าชมผลงานจิตรกรรมรอบละ 25 คน เป็นเวลา 15 นาทีต่อรอบ

เรียกได้ว่าผลงานศิลปะเต็มไปคุณค่า ที่สามารถเล่าเรื่องราวมากมายให้คนรุ่นหลังได้เชยชม การดูแลผลงานจิตรกรรมอย่างถูกวิธีจึงเป็นเรื่องสำคัญในการรักษาคุณค่าเหล่านี้ JWD Art Space พร้อมมอบบริการด้านศิลปะ Fine Art Logistics ทุกรูปแบบอีกทั้งยังให้คำแนะนำในการดูแลและจัดการทุกประเภทของงานศิลปะ

Reference: https://www.dailyartmagazine.com/giotto-meeting-at-the-golden-gate/?fbclid=IwAR0-Dd2JF_CxXqzL18N2oFYd6E5Crdum_npYrJHQW0Q4ScE1n2ObRUTQPjk